christmas-in-christianity

คุณอาจรู้ว่าคริสต์มาสมีการเฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม ในสหรัฐอเมริกาโดยมีความเชื่อว่าครอบครัวจะไดรับของขวัญที่ซานตาคลอสทิ้งไว้ใต้ต้นคริสต์มาสในเช้าวันคริสต์มาส หลายคนเข้าร่วมงานคริสตจักรในวันคริสต์มาสอีฟ และตอนเช้าวันคริสมาสต์ ต่อมาก็รวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารค่ำวันคริสต์มาสกับครอบครัว วันคริสตมาคือการประสูติของพระเยซูที่เกิดกับหญิงพรหมจารีในโรงนาในเบธเลเฮมและก็มีเรื่องราวมหัศจรรย์มากมายรอบตัวเขาหลังประสูติ เช่นเทวดาที่มาแสดงกายต่อหน้าคนเลี้ยงแกะ บอกให้เขาไปเยี่ยมเยือนพระผู้ช่วยให้รอดที่เพิ่งได้ถือกำเนิด

พระคัมภีร์ใหม่หรือบันทึกทางประวัติศาสตร์ใดๆ ไม่ได้ระบุวันเกิดของพระเยซูอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้คริสตจักรเริ่มพิจารณาวันที่ต่างๆ ที่มีความเป็นไปได้ เช่น 2 มกราคม 21 มีนาคม 25 มีนาคม 18 เมษายน 19 เมษายน 20 พฤษภาคม 28 พฤษภาคม 17 พฤศจิกายนและ 20 พฤศจิกายน คริสตจักรตะวันตกเริ่มตั้งข้อสังเกตในวันที่ 25 ธันวาคมในศตวรรษที่สี่และในที่สุดคริสตจักรตะวันออกก็เห็นเหมาะสมและจึงยึดถือวันที่ 25 ธันวาของทุกปีเป็นต้นมา

ประเพณีส่วนใหญ่ของเทศกาลคริสต์มาสมีมากมาย เช่นการให้ของขวัญ การตกแต่งต้นไม้คริสมาสขนาดใหญ่ และประดับด้วยหลอดไฟ กับถุงเท้าสีแดง ส่วนการเลี้ยงอาหารมาจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากศาสนจักร และที่สำคัญเลยก็คือลุงตัวอ้วนใจดีใส่ชุดสีแดงที่จะมาแจกของให้กับเด็กๆ หรือก็คือซานตาคลอส ประวัติศาสตร์ของซานตาคลอสมาจากหลายแหล่ง แรงบันดาลใจที่เก่าแก่ที่สุดที่เป็นที่รู้จักสำหรับตำนานมาจากศตวรรษที่สี่ อาจจะเป็นแรงบันดาลใจจากนักบุญนิโคลัสแห่งไมร่า คริสเตียนกรีกผู้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความเอื้ออาทรต่อคนยากจน

ความเป็นมาของซานตาคลอสนั้นมีปรากฏในตำนานดั้งเดิมและศาสนาต่างๆ ในภาคเหนือของยุโรปที่มีความเชื่อมากันอย่าวยางนาน ก่อนที่ชาวคริสต์จะนับถือตามมาด้วย ซานตาคลอสรุ่นอเมริกันดูเหมือนจะมาจากตำนานชาวดัตช์เกี่ยวกับ Sinter Klaas ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอเมริกาในศตวรรษที่สิบเจ็ด ชาวอเมริกันใช้ไอเดียนี้ในการเล่าเรื่องและเป็นแรงบันดาลในให้กับลูกหลานเพื่อใช้เป็นวันมอบของขวัญให้กับเด็กชายและเด็กหญิงที่เป็นเด็กน่ารักในวันคริสต์มาสอีฟ สำหรับซานตาคลอสหลายต่อหลายคนถือเป็นจิตวิญญาณแห่งการให้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับซานตาคลอสในช่วงวันหยุดคริสต์มาส หลายคนไม่เพียง แต่มอบของขวัญให้กับคนที่คุณรักเท่านั้น แต่พวกเขายังมอบเวลาและเงินให้กับองค์กรการกุศลอีกด้วย ไม่เพียงแต่ชาวต่างชาติเท่านั้น ประเทศไทยก็ยังมีการนิยมให้ของขวัญเช่นเดียวกัน ในวันคริสต์มาส ถึงจะไม่มีส่วนในความมหัศจรรย์นี้โดยตรงจากแหล่งบ้านเกิดก็ตาม แต่เราก็สามารถสนุก และมีความสุขร่วมกันได้เช่นกัน