• protestant_cluth_temple

    ความแตกต่างระหว่างโรมันคาทอลิกกับโปรเตสแตนต์

    โรมันคาทอลิกนับถือพระเยซูและพระนางมารีย์พรหมจารี เพราะเชื่อว่าพระแม่มารีย์พระมารดาพระเยซูเป็นพรหมจารีเสมอ โดยเรียกว่า “แม่พระ” หรือพระมารดาพระเจ้า นั้นหมายความว่า พระยูเสมือนพระมหากษัตริย์ แม่พระเป็นเหมือนพระราชชนนี ส่วนนิกายโปรเตสแตนต์นับถือเพียงแต่พระเยซู เพราะโปรเตสแตนต์เชื่อว่านางมารีย์เป็นหญิงพรหมจรรย์ แต่ก็นับถือว่านางเป็นพระมารดาของพระเยซูเช่นกัน

    Continue Reading
  • peter_roman_cluth

    ความแตกต่างระหว่างอิสเทิร์นออร์ทอดอกซ์กับโรมันคาทอลิก

    ทางโรมันคาทอลิกทำการเปลี่ยนแปลงหลักข้อเชื่อไนซีนเรื่องของบังเกิดพระจิตเจ้า “ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร” แต่ทางศาสนจักรออร์ทอดอกซ์กลับมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูก เนื่องจากตามข้อตกลงแห่งสภาสังคายนาเอเฟซัสครั้งที่หนึ่ง ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดเปลี่ยนแปลงหลักข้อเชื่อ” ซึ่งตรงกันข้ามกับทางโรมันคาทอลิกที่ได้เปลี่ยนแปลงหลักข้อเชื่อ หรือตามภาษาลาติน “Filioque” ทำให้ศาสนจักรออร์ทอดอกซ์จึงไม่พอใจและประณามเรื่องดังกล่าว

    Continue Reading
  • orientalorthodox-history

    คริสตจักรออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์

    นิกายศาสนาคริสต์ตะวันออก ซึ่งได้รับการมติสภาสังคายนาสากลเฉพาะ 3 ครั้ง โดยแบ่งเป็น 1.สังคายนไนเซียครั้งที่หนึ่ง 2.สังคายนาคอนสแตนติโนเปิลครั้งที่หนึ่ง 3.สังคายนาแห่งเอเฟซัส ทั้งนี้ยังมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “คริสตจักรออเรียนทัลเก่า” ทั้งนี้ออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ คอปติดออร์ทอดอกซ์ ,เอธิโอเปียนออร์ทอดอกซ์ , เอริเทรียนออร์ทอดอกซ์ , ซีเรียกออร์ทอดอกซ์ และ คริสตจักรอัครทูตอาร์มีเนียน  

    Continue Reading

The Armenian presence – History

header_armenian1The Armenian presence แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ย้อนกลับไปเมื่อปีที่ 1 ของคริสต์ศาสนาก่อนการเปลี่ยนแปลงของ Armenian King Tirdat ที่สาม หรือประมาณช่วงคริสต์ศักราชที่ 301 โดยมีการบันทึกหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าในช่วงต้นของคริสต์ศักราช 254 บาทหลวงแห่งโบสถ์อาร์เมเนียพร้อมกับความร่วมมือระหว่างบาทหลวงของกรีกออร์โธดอกคริสตจักรประจำกรุงเยรูซาเล็มและอะเล็กซานเดรีย อียิปต์ ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างมากในการค้นพบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระเยซูคริสต์ ต่อมาจึงได้ก่อตั้งกลุ่มสำหรับการรักษาสมบัติของคริสเตียนตอนต้น

จุดเริ่มต้นของศาสนาคริสต์ของเหล่าผู้แสวงบุญอาร์เมเนียเริ่มเดินทางป่าเพื่อไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่แน่วแน่และมั่นคง ไม่เกรงกลัวต่อความวุ่นวายทางการเมืองและความยากลำบากที่ถาโถมเข้ามาอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงอย่างนั้นเหล่านักแสวงบุญก็ยังคงเลือกที่จะอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อใช้เวลาในการก่อตั้งโบสต์หรือวิหาร โดยอัครบิดร อาร์เมเนียคอนแวนต์ (Patriarchate) หรือ มุขนายกชั้นสูงสุดบางคริสตจักร โดยอาณาเขตมหาวิหารเซนต์เจมส์ ตั้งอยู่บริเวณมุมตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเก่าในเยรูซาเล็ม บัญญัติขึ้นในช่วงไตรมาสของเยรูซาเล็ม ปัจจุบันเป็นพื้นที่ถึง 1 ใน 6 ของพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ภายใต้ผนังของเมืองเก่า ทั้งนี้เหล่าผู้แสวงบุญยังสร้างบ้านเรือนและโบสต์ ไปจนถึงคอนแวนต์บนพื้นที่อื่นๆ ในศตวรรษที่ 7 จุดสูงสุดของ The Armenian presence แห่งอาร์เมเนียแห่งกรุงเยรูเล็มด้วยตัวเลขถึง 25,000 เลยทีเดียว

ทั้งนี้ตามบันทึกของประวัติศาสตร์ช่วงตอนต้นของศตวรรษที่ 3 แห่งคริสตจักรอาร์เมเนีย อยู่ภายใต้การปกครองของบาทหลวงอย่างต่อเนื่องและมีส่วนสำคัญในการบำรุงรักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงยังมีการป้องกันและฟื้นฟูบูรณะหลังถูกทำลายจากผลกระทบสงครามโลกครั้งที่ 1

ช่วงตั้งแต่ 4 คริสต์ศักราชแห่งศตวรรษที่ 8 มีเหล่าคริสเตียนที่ยึดมั่นในหลักวินัยของศาสนา และปฏิบัติตามอย่างแน่วแน่จนเป็นรากฐานแก่นักแสวงบุญอื่นๆ ในช่วงเวลานั้นอย่างมาก ตั้งแต่เอเชียไมเนอร์ผ่านดินแดนศักสิทธิ์คาบสมุทรไซนายจรดทะเลทรายอียิปต์ นับว่าเป็นการหลั่งไหลของเหล่าผู้แสวงบุญจากอาร์เมเนีย พระราชวงศ์อาร์เมเนียถูกจัดตั้งขึ้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สุดวิเศษในเนินเขานอกกรุงเยรูซาเล็มใกล้กับทะเลเดดซีและคาบสมุทรไซนายทิศใต้ เหล่าพระสงฆ์อิทธิพลและมีความสร้างสรรค์ในด้านต่างๆ อย่างมากในเวลานั้น ทำให้คริสตจักรมีความล้ำค่าและมีจำนวนผู้ศรัทธาจำนวนมาก การพัฒนาของ The Armenian Lectionary ประกอบไปด้วยบทกวีนิพนที่ครอบคลุมเกี่ยวกับคริสตจักรอาร์เมเนีย ทั้งบทสวดและพิธีเฉลิมฉลอง พร้อมกำหนดวันสำคัญทางด้านศาสนาและกำหนดวันลงปฏิทินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

อันเนื่องมาจากที่คริสจักรอาร์เมเนียเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นไปอีก ก็ได้มีการจัดตั้ง บิชอปผู้นำของคริสตจักรเพื่อยกระดับสถานะของพระสังฆราชในช่วงศตวรรษที่ 5 เป็นการแต่งตั้งขึ้นครั้งแรกตามบันทึกอย่างเป็นทางการ สังฆราชแห่งกรุงเยรูซาเล็ม ชื่อ Abraham ต่อมาช่วงกลางศตวรรษที่ 7 ได้รับอนุญาตและการยอมรับอย่างเป็นทางการ

บนผนังด้านหลังของประตูทางเข้าหลัก St.Jame Convent มีการจารึกแกะสลักอย่างประณีตในภาษาอาหรับ เตือนผู้บุกรุกหรือผู้รุกล้ำทั้งหลายว่า “This decree from our Lord Sultan and King Al-Daher Abu Sayid Mohammed, cursed be to all those and their sons through generations, and may Almighty God curse whoever harms or inflicts any injustice to this Holy Place. Abu Kheyer Razan hereby guarantees this to the St. James Armenian Convent in Jerusalem. In the year of Mohammed 854 (1488 A.D.)” เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้รักษาคำมั่นสัญญาเหล่านี้

ศาสนาคริสต์คืออะไร?

เรื่องราวของพระเยซู

เนื้อหาสาระ armenian-patriarchate.org

cross-wallpaper-website

เว็บไซต์เพื่อนบ้าน